เกิดข่าวลือในประเทศกัมพูชาว่า สุวนันท์ คงยิ่ง นักแสดงหญิงชาวไทยขวัญใจชาวกัมพูชา ได้กล่าวว่านครวัดเป็นของไทย เป็นเหตุให้ชาวกัมพูชาโกรธแค้นและก่อการจลาจลในกรุงพนมเปญ โดยได้บุกเผาสถานทูตไทยและยังบุกเผาหรือเข้าทำลายข้าวของและฉกฉวยเอาทรัพย์สินของบริษัทห้างร้านอาคารพาณิชย์ที่คนไทยเป็นเจ้าของ ในกรุงพนมเปญสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทางด้านรัฐบาลไทยในขณะนั้นได้แก้ปัญหาโดยส่งเครื่องบินลำเลียงซี-130 ไปรับคนไทยกว่า๕๐๐คน กลับประเทศ ทำการปิดด่านชายแดน ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหาย
จากเหตุจลาจลครั้งนั้น รัฐบาลกัมพูชาได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายไทยรวมเป็นเงิน๒,๐๐๐ ล้านบาท ส่วนธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย ได้รับการชดใช้เป็นการลดหย่อนภาษีหรือค่าธรรมเนียมต่างๆ แทนเงินสดเป็นส่วนใหญ่
หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นมีการวิเคราะห์กันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองความขัดแย้งภายในของกัมพูชาเองเพราะใกล้จะมีการเลือกตั้ง อีกสาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ทางการค้าไม่ลงตัว เกิดกระแสค่านิยมรักชาติ ห้ามการร้องเพลงไทย ห้ามรายการโทรทัศน์ไทย ห้ามสร้างบ้านแบบไทย
กระแสรักชาติที่ถูกปลุกเป็นระยะกลายเป็นการคลั่งชาติ สุดท้ายระเบิดด้วยข่าวลือเรื่องดาราสาว สุวนันท์ คงยิ่ง ที่ปล่อยข่าวว่าเธอพูดจาดูหมิ่น
นอกจากสาเหตุทางการเมืองและเศรษฐกิจแล้ว ควรดูที่ประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและเขมรที่มีความสัมพันธ์กันมานานกว่าพันปี
อาณาจักรอันรุ่งเรืองของเขมรโบราณคือนครวัด นครธม มีเมืองหลวงมีชื่อเป็นทางการว่า ยโสธรปุระ ถูกกองทัพอยุธยาตีแตก ๓ ครั้ง ครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอู่ทองหลังสถาปนากรุงศรีอยุธยาได้สอง-สามปี ครั้งที่สองในสมัยพระราเมศวร และครั้งที่สามในสมัยเจ้าสามพระยา เขมรเสียเมือง ต้องทิ้งให้นครวัดนครธมที่เคยยิ่งใหญ่กลับกลายเป็นเมืองร้าง แล้วย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่เมืองละแวก ซึ่งในสมัยพระนเรศวร ก็ยกทัพไปตีแตกและทำลายเมือง เขมรต้องย้ายไปเมืองอุดง แล้วไปอยู่ที่เมืองจตุรมุข หรือ พนมเปญในปัจจุบัน
คนเขมรรู้สึกอย่างไร ดูจากประวัติศาสตร์ แล้วเทียบเคียงความรู้สึกของคนไทยกับสิ่งที่พม่าทำกับกรุงศรีอยุธยาก็น่าจะพอเข้าใจได้
ความสัมพันธ์ไทย-เขมรปัจจุบันมีลักษณะไม่เท่าเทียม ด้านเศรษฐกิจเขมรเสียดุลการค้าไทยมากที่สุด อาจจะประมาณสองหมื่นล้าน เครื่องอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ไปจากไทย ในแง่ฐานะทางเศรษฐกิจเรารวยกว่า ประสบความสำเร็จมากกว่า ทำให้เกิดความชิงชังโดยส่วนรวม ในแง่ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรมไทย ซึ่งรวมทั้ง ภาษา เพลง ดนตรี ละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์ต่างๆของไทย เข้าไปเผยแพร่และได้รับความนิยมในกัมพูชามาก
ความคิดเรื่องเสียดุลการค้าและถูกรุกรานทางวัฒนธรรม อาจจะคล้าย ๆ กับเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้วที่ไทยเสียดุลการค้าญี่ปุ่นมาก มีการเดินขบวนต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เราคงต้องเรียนรู้จากการแก้ไขปัญหาของญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าหลังจากนั้นญี่ปุ่นได้ปรับตัว ทุ่มเงินจัดการเรื่องสร้างความเข้าใจทาง วัฒนธรรม ภาษา มีการแปลนิยายไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น เอาหนังไทยไปฉาย ไทยอาจต้องทำแบบนั้นบ้างกับประเทศเพื่อนบ้าน
ตำราประวัติศาสตร์ต้องชำระให้เกิดความเข้าใจถูกต้อง ในอดีตเรามองว่าสงครามไทยรบพม่ารบเขมร แต่ที่จริงแล้วคือเรื่องของเมืองต่อเมือง อาณาจักรต่ออาณาจักร กษัตริย์ต่อกษัตริย์ ไม่ใช่ชนชาติทั้งชนชาติไปรบกัน ไม่ใช่ความเกลียดชังในฐานะคนไทยกับคนเขมร คนพม่า
อีกไม่กี่ปีปีข้างหน้า สิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับชาวภูมิภาคอุษาคเนย์กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการรวมกันเป็นประชาคมอาเซียน แต่เมื่อมองดูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆแล้ว ก็จะเห็นว่าปัญหาต่างๆยังรอการแก้ไขอยู่อีกไม่ใช่น้อย
การตีความประวัติศาสตร์แบบผิด ๆ อันอาจสืบเนื่องมาจากอคติระหว่างชนชาติ และ อาจก่อให้ เกิดอคติต่อเนื่องไปไม่รู้จบ ควรต้องมีการเอาตำราประวัติศาสตร์ สังคมศึกษามาแปลดูกันในหมู่อาเซียน แล้วชำระกันใหม่ให้ถูกต้องตามหลักฐานทางวิชาการ แน่นอนว่า อาจเป็นการยากที่จะลบความทรงจำของคนในรุ่นนี้ที่ได้รับการปลูกฝังความเชื่อมานาน และยากยิ่งกว่าที่จะยอมรับความจริงใหม่ๆที่ค้านกับความเชื่อเดิมนั้น แต่หากไม่เริ่มลงมือทำ ปัญหากระทบกระทั่งระหว่างประเทศก็จะเป็นระเบิดเวลาที่รอการประทุขึ้นอีกไม่รู้ว่าวันใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาบิดเบือน หรือ ใช้ความจริงบางส่วนมาสนองต่อผลประโยชน์ทางการเมือง ก็จะยิ่งซ้ำเติมความรุนแรงให้หนักหนายิ่งขึ้นจนยากที่จะแก้
ชาวกัมพูชาเคยตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองประเทศเขามาแล้ว ผู้ที่ได้รับผลเสียหายก็หนีไม่พ้นประชาชนทั้งสองประเทศ ชาวไทย พ.ศ.นี้ ระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ อย่าหลงกลตกเป็นเหยื่อนักการเมืองเป็นอันขาด เพราะสุดท้ายแล้วก็มีแต่ประชาชนอย่างเราๆนี่แหละครับที่เดือดร้อน นักการเมืองน่ะ เอาเข้าจริงก็เผ่นไปไหนต่อไหนแล้ว
ขอบคุณWeb site ต่อไปนี้เป็นอย่างยิ่งครับ :
http://www.fpps.or.th/news.php?detail=n1058350734.news
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น